The Greatest Guide To น้ำมันปลา
The Greatest Guide To น้ำมันปลา
Blog Article
พิจารณาเลือกซื้อน้ำมันปลาที่มีสารอาหารอื่นเพิ่มเติม โดยเฉพาะสารอาหารที่อาจช่วยเสริมสุขภาพหรือบรรเทาอาการของโรคได้
การบริโภคน้ำมันปลาปริมาณมากจากแหล่งอาหารทั่วไปนั้นจัดว่า อาจไม่ปลอดภัย โดยเนื้อปลาบางชนิด เช่นฉลาม ปลาอินทรี และแซลมอนที่โตในฟาร์มเลี้ยง อาจมีการปนเปื้อนสารปรอท และสารเคมีจากแหล่งที่อยู่อาศัย และจากอุตสาหกรรม ทำให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลามีความปลอดภัยกว่าเนื่องจากปราศจากเคมีเหล่านี้
ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สูตรปรนนิบัติผิวเสีย...ให้กลับมาขาวใสหลังสงกรานต์
อาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้ในคุณแม่ตั้งครรภ์บางท่าน
วิธีรักษาสิวอุดตัน..กำจัดสิว เพื่อหน้าใสอย่างได้ผล
พร้อมคำแนะนำในการเลือกสินค้าจากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ
ความดันโลหิตสูง น้ำมันปลาสามารถลดความดันโลหิตในผู้ป่วยที่มีปัญหาความดันเลือดสูงได้เล็กน้อย และอาจมีส่วนช่วยเพียงเล็กน้อยก็เป็นได้ เพราะในกลุ่มตัวอย่าง ผู้ป่วยที่มีปัญหาไม่สามารถควบคุมความดันได้ก็กำลังใช้ยาลดความดันโลหิตอยู่เช่นกัน
ผลข้างเคียงและการบริโภคน้ำมันปลาให้ปลอดภัย
น้ำมันปลามีประโยชน์ต่อหัวใจ ช่วยในเรื่องอาการเจ็บหน้าอก หัวใจเต้นผิดจังหวะ และบรรเทาอาการเสี่ยงต่าง ๆ หลังการปลูกถ่ายหัวใจ
แต่ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตไม่ดีก็ยังมีโอกาสปล่อยส่วนผสมก่อนควร
ตาแห้ง น้ำมันปลา มีรายงานว่าผู้หญิงที่บริโภคน้ำมันปลาจากอาหารสูงเกี่ยวโยงกับความเสี่ยงต่อภาวะตาแห้งที่น้อยลง แต่ผลกระทบในเรื่องของการใช้น้ำมันปลากับตาแห้งยังคงนับว่าไม่สอดคล้องกันอยู่ บ้างพบว่าน้ำมันปลาสามารถลดอาการจากตาแห้งอย่างเจ็บตา การมองเห็นไม่ชัดเจน และตาอ่อนไหวมากขึ้นได้ แต่น้ำมันปลาก็ไม่ได้ช่วยให้สัญญาณหรืออาการอื่นๆ ดีขึ้น อย่างเช่นการผลิตน้ำตาและความเสียหายที่พื้นผิวของดวงตา การรับประทานน้ำมันปลายังไม่ได้ช่วยให้อาการตาแห้งดีขึ้นเมื่อกำลังใช้การรักษาตาแห้งวิธีอื่นอยู่
สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น รับประทานอาหารไขมันสูง มีระดับไตรกลีเซอไรด์สูง ขาดการออกกำลังกาย สูบบุหรี่ มีความเครียดสูง หรือต้องการบำรุงสุขภาพ หากไม่สามารถรับประทานปลาได้เพียงพออาจลองปรึกษาแพทย์ถึงการรับประทานน้ำมันปลาในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยน้ำมันปลาบางยี่ห้ออาจมีการเพิ่มสารอาหารอื่นลงไปเพื่อเสริมสุขภาพในด้านอื่น ๆ อย่างวิตามินอี หรือแอสตาแซนธินที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติในการช่วยต้านการอักเสบของอวัยวะและหลอดเลือด จึงอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อีกทางหนึ่ง
บุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือมีภาวะความผิดปกติ ซึ่งควรระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการกินแปะก๊วย มีดังนี้